การ Live นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ใหม่ของการขายของออนไลน์ เพราะเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย สามารถนำเสนอขายสินค้าได้ใกล้เคียงกับการได้ดูสินค้าจริง แต่สำหรับแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์คนไหนที่สนใจ Live ขายของแต่เป็นมือใหม่ อาจจะรู้สึกหนักใจ กังวลถึงความยุ่งยากหรือกลัวว่าจะ Live ได้น่าเบื่อจนไม่มีลูกค้ามาสนใจก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมเทคนิคการ Live Facebook ง่ายๆแบบจับมือทำ แต่ได้ประสิทธิภาพเหมือนมืออาชีพมาฝากทุกคนกัน
7 เทคนิคการ Live Facebook ให้มีประสิทธิภาพสำหรับมือใหม่ทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
-
เลือกเวลาอย่างเหมาะสม
ถ้าเลือกถูกเวลา ก็มีโอกาสที่จะถึงผู้คนมากขึ้น ผู้ใช้งาน Facebook จะมองเห็นมากยิ่งขึ้น เมื่อยอดผู้ชมเพิ่ม ยอดขายก็จะเพิ่มตามไปด้วย หากไม่รู้ว่าควร Live เวลาไหนก็ลองใช้งาน Facebook Analytics ดู จะช่วยวิเคราะห์ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณใช้งาน Facebook ในเวลาไหนมากที่สุด
-
แจ้งเวลาล่วงหน้า
เปรียบเสมือนการโปรโมทเพื่อให้รู้ว่ากำลังจะขายอะไร ขายเมื่อไร ลูกค้าได้รู้เวลาและเตรียมตัวเข้ามาคอนเฟิร์มสินค้ากันได้ทัน สามารถเขียนโพสต์ประกาศก่อนได้สัก 1-2 วัน โดยไม่จำเป็นต้องรอจนกว่านาทีสุดท้าย หากต้อง Live บ่อยครั้ง แนะนำให้ทำในเวลาเดิมซ้ำๆ เช่น ทุกๆ 2 ทุ่ม ของวันศุกร์ เป็นต้น ลูกจะจดจำและวางแผนเข้ามาชมการขายกันได้ถูกเวลา
-
เตรียมความพร้อม
ต้องเริ่มเตรียมตั้งแต่แผนการ Live ผู้ขายต้องรู้ว่าควรพูดอะไร นำเสนอสิ่งใด เช่น รายละเอียดสินค้า ราคา คุณสมบัติอื่นๆ เป็นต้น หากเป็นมือใหม่มากจนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองการมีสคริปสามารถช่วยได้ เพราะจะช่วยให้พูดถึงหัวข้อสำคัญได้อย่างครบถ้วนโดยไม่ออกทะเลไปเสียก่อน ทั้งนี้ต้องระวังลักษณะการพูด อย่าท่องจำหรือพูดแบบตั้งใจเกินไป เนื่องจากจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ
นอกจากการพูดแล้ว หากอยากให้การ Live ออกมาอย่างเพอร์เฟคมากที่สุด จะต้องเตรียมอีกหลายอย่าง เช่น ไมค์ ขาตั้งกล้องหรือขาตั้งมือถือ ไฟสำหรับปรับแสง กล้องถ่ายรูปหรือคอมพิวเตอร์(หากต้อง Live เป็นเวลานาน) พร็อบประกอบเพื่อสร้างความสนใจให้กับสินค้า อินเทอร์เน็ตคุณภาพดีเป็นต้น ที่สำคัญพื้นที่สำคัญการ Live จะต้องมากพอและเหมาะสมกับประเภทสินค้าด้วย เช่น หากเป็นสินค้าชิ้นเล็กอย่างเครื่องสำอาง อาจไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถนั่งพูดแล้วแนะนำสินค้าได้เลย แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่จำเป็นต้องสวมใส่ให้ดู ต้องมีการหมุนตัวไปมา จะต้องใช้มีพื้นที่มากสำหรับเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัวมากที่สุด เป็นต้น
-
แคปชั่นต้องดึงดูด
แคปชันประกอบการขายนั้นมีความสำคัญต่อการตัดสินเข้าชม Live ไม่น้อย การเขียนข้อความให้ดึงดูดจะช่วยเพิ่มความสนใจให้กับลูกค้าได้ หากไม่รู้จะเขียนอย่างไรดีแนะนำให้เขียนไฮไลท์เด่นของสินค้าที่ต้องการจะขาย อาทิ วันนี้ขายโละ ราคาพิเศษทั้งร้าน, เสื้อผ้ามาใหม่ ดีไซน์สวย ราคาเบาๆ 200 บาททั้งร้าน เป็นต้น
-
ต้องพร้อมรับออเดอร์
ควรมีโทรศัพท์มือถืออย่างน้อย 2 เครื่อง โดยเครื่องหนึ่งใช้สำหรับ Live และอีกเครื่องใช้สำหรับตอบคำถามและรับออเดอร์ หากมีผู้ช่วยคอยดูแลเรื่องออเดอร์กับตอบคำถามก็จะยิ่งดี เพราะป้องกันการตกหล่นได้ ผู้ที่ Live ก็จะได้ดำเนินการอย่างลื่นไหล ไม่ต้องคอยกังวลในเรื่องอื่นๆ
-
การขายต้องมีความน่าสนใจ
ก่อนอื่นคือต้องฝึกพูดบ่อยๆ ใช้น้ำเสียงในโทนที่เหมาะสม น่าฟัง สามารถเอนเตอร์เทนคนดูได้ อาจจะใส่ลีลา เต้นหรือหยอดมุกตลกเพิ่มเข้าไป เพื่อให้เกิดความสนุก ความสนใจ ไม่อย่างนั้นคนดูอาจจะรู้สึกเบื่อจนปิด Live อย่างรวดเร็ว ซึ่งโอกาสหน้าอาจจะไม่กลับมาดูอีกแล้วก็เป็นได้ นอกจากคำแนะนำข้างต้น ยังสามารถใช้เทคนิคอื่นเพิ่มความน่าสนใจได้อีก เช่น จัดกิจกรรมร่วมสนุก แจกสินค้าสมนาคุณ เปิดประมูลสินค้าพิเศษ เป็นต้น สำหรับใครที่ไม่อยากให้การ Live มีช่วงเวลาที่เงียบและน่าอึดอัด แนะนำให้เปิดเพลงทำนองสบายๆคลอเอาไว้ แต่ระวังอย่าให้เสียงดังเกินไปจนกลบเสียงพูด
-
โชวสินค้าทั้งหมดที่มี
ควรจัดสินค้าทุกชิ้นให้อยู่ในเฟรมกล้อง จะช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ บางคนอาจจะเล็งสินค้าบางชิ้นเอาไว้อยู่แล้ว มีโอกาสที่จะซักถามและเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น เมื่อหยิบสินค้ามาโชว์ ควรให้ลูกค้าดูอย่างละเอียด ต้องมีการสาธิตให้ดูขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า เช่น เครื่องสำอางควรทดสอบสีและเนื้อผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าควรสวมใส่ให้ดูและจับพลิกให้ดูถึงเนื้อผ้าและรอยตะเข็บต่างๆ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าทั้งสิ้น
เมื่ออ่านกันจบแล้ว สำหรับใครที่ยังลังเลอยู่อยากให้เริ่มศึกษาและเตรียมตัวขายสินค้าด้วยวิธีการ Live กันได้แล้ว เพราะปัจจุบันนี้อัตราการซื้อขายผ่าน Live นั้นสูงกว่าการเข้าชมภาพนิ่งสินค้ามาก เพราะลูกค้าจะรู้สึกเหมือนได้เยี่ยมชมสินค้าด้วยตัวเอง สามารถสอบถามผู้ขายได้แบบ Real-Time อีกทั้งการ Live ยังเข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่าคอนเทนต์ธรรมดา เมื่อพิจารณาจากข้อดีทั้งหมดทั้งมวลจะพบว่าการขายด้วยวิธีนี้มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่านั่นเอง